ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2564 อิตาลีกลายเป็นประเทศแรกในยุโรปที่บังคับใช้กฎหมายว่าด้วยโรคโควิด-19 สำหรับผู้ปฏิบัติงานทุกคน ภายในสิ้นเดือนเดียวกัน แคนาดา สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย คาซัคสถาน ซาอุดีอาระเบีย และเติร์กเมนิสถาน ต่างก็ประกาศคำสั่งวัคซีนที่คล้ายคลึงกัน ผู้เสนออาณัติให้โต้แย้งว่าอาณัติเหล่านี้เป็นหนทางเดียวที่จะยุติการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทั่วโลก ฝ่ายตรงข้ามอ้างหลักฐานว่าผู้ที่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติอยู่แล้วมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผลข้างเคียงของวัคซีนที่เกิดจากการตอบสนองต่อการอักเสบที่เพิ่มขึ้น
@ISIDEWITH5 มอส5MO
คุณจะสนับสนุนการตัดสินใจของบริษัทในการบังคับใช้คำสั่งเกี่ยวกับวัคซีนหรือไม่ หากนั่นหมายถึงการปกป้องประชากรกลุ่มเปราะบาง
@ISIDEWITH5 มอส5MO
คำสั่งเกี่ยวกับวัคซีนอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้างในทางใดบ้าง
@ISIDEWITH5 มอส5MO
คุณเชื่อว่าภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติควรถือว่าเทียบเท่ากับการฉีดวัคซีนในนโยบายด้านสุขภาพในที่ทำงาน เพราะเหตุใด
@ISIDEWITH5 มอส5MO
คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับการใช้หนังสือเดินทางวัคซีนเพื่อเข้าถึงบริการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การซื้อของชำหรือการขนส่งสาธารณะ
@ISIDEWITH5 มอส5MO
ทางเลือกด้านสุขภาพของแต่ละบุคคลควรเป็นเรื่องส่วนตัว หรือเป็นสิ่งที่รับประกันความกังวลของสาธารณชนในบริบทของการระบาดใหญ่?
@ISIDEWITH5 มอส5MO
หากงานของสมาชิกในครอบครัวกำหนดให้มีคำสั่งให้ฉีดวัคซีน คุณจะแสดงข้อกังวลหรือการสนับสนุนอะไรบ้าง
@ISIDEWITH5 มอส5MO
คุณสามารถแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวที่คุณต้องตัดสินใจเรื่องสุขภาพเนื่องจากข้อกำหนดในการทำงานได้หรือไม่?
@ISIDEWITH5 มอส5MO
คำสั่งให้ฉีดวัคซีนในบริษัทขนาดใหญ่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจหางานที่นั่นของคุณอย่างไร
@ISIDEWITH5 มอส5MO
คุณคิดอย่างไรกับการสร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัยด้านสาธารณสุขกับเสรีภาพส่วนบุคคลในการเลือกวิธีการรักษาทางการแพทย์
@ISIDEWITH5 มอส5MO
คุณจะรู้สึกอย่างไรหากคุณถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าที่ทำงานเนื่องจากสถานะการฉีดวัคซีนของคุณ
@ISIDEWITH3ปี3Y
ไม่ ฉันคิดว่าธุรกิจควรต้องฉีดวัคซีน แต่ไม่ใช่ตามคำสั่งของรัฐบาล